เหล็กแผ่นหรือ Steel Plates เป็นวัสดุที่มีความสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง มีคุณสมบัติและประโยชน์การใช้งาน ทำให้เหล็กแผ่นเป็นที่ต้องการอย่างกว้างขวาง แผ่นเหล็กมีทั้งแบบบาง,แบบหนา มั้งแบบเรียบและแบบลาย สามารถประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การใช้เป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างไปจนถึงการใช้ในงานผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมต่างๆ
หมวดหมู่ : เหล็กแผ่น ,  เหล็กรูปพรรณ , 
Share
เหล็กแผ่นหรือ Steel Plates เป็นวัสดุที่มีความสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง ด้วยความหลากหลายของคุณสมบัติและการใช้งาน ทำให้เหล็กแผ่นเป็นที่ต้องการอย่างกว้างขวาง แผ่นเหล็กมีทั้งแบบบางและเรียบ สามารถประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การใช้เป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างไปจนถึงการใช้ในงานผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมต่างๆ
เหล็กแผ่นบาง: มีความหนาน้อยกว่าประมาณ 3 มม. ใช้งานได้ดีในสภาพที่ต้องการความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา เช่น ในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือส่วนประกอบของรถยนต์
เหล็กแผ่นหนา: มีความหนามากกว่า 3 มม. เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น ฐานรากของอาคาร หรือในงานก่อสร้างสะพาน
เหล็กแผ่นเรียบ: มีผิวเรียบลื่น ใช้ในงานที่ต้องการพื้นผิวที่เรียบเนียน เช่น ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรหรือใช้เป็นพื้นผิวในงานออกแบบ
ความแข็งแรงและความทนทาน: เหล็กแผ่นมีความแข็งแรงสูง สามารถรับน้ำหนักและแรงกดที่มาก นอกจากนี้ยังทนต่อการกัดกร่อนและสภาพอากาศที่รุนแรง
ความหลากหลายของขนาดและความหนา: เหล็กแผ่นมีให้เลือกหลายขนาดและความหนา ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในหลายๆ ด้าน
ความยืดหยุ่นในการแปรรูป: สามารถตัด โค้ง หรือขึ้นรูปได้ตามต้องการ เพื่อตอบสนองความต้องการของโครงการหรือผลิตภัณฑ์
งานโครงสร้าง: เหล็กแผ่นถูกใช้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างอาคาร สะพาน และโครงสร้างเหล็กต่างๆ โดยมีบทบาทในการรับน้ำหนักและเพิ่มความมั่นคงของโครงสร้าง
การผลิตอุตสาหกรรม: เหล็กแผ่นใช้ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร อุปกรณ์ขนส่ง และผลิตภัณฑ์โลหะต่างๆ
การออกแบบ: ใช้เหล็กแผ่นในการสร้างผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ โดยใช้ความยืดหยุ่นและความทนทานของวัสดุเป็นจุดเด่น
1.กำลังการผลิต: กำลังการผลิตเหล็กขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก, เช่น การขยายกำลังการผลิตของจีน สามารถกดดันราคาเหล็กลงได้เนื่องจากมีอุปทานเพิ่มขึ้น
2.คุณภาพของวัสดุ: เหล็กแผ่นที่มีคุณภาพสูงกว่า ทั้งในเรื่องของความหนา ความเรียบของพื้นผิว และความแข็งแรง มักมีราคาสูงกว่าเหล็กที่มีคุณภาพต่ำกว่า
3.ความต้องการในตลาด: ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเหล็กในโครงการก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถทำให้ราคาเหล็กปรับตัวขึ้น
4.ต้นทุนการผลิต: รวมถึงต้นทุนด้านพลังงาน แรงงาน และวัตถุดิบ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงสามารถส่งผลกระทบต่อราคาเหล็กแผ่นได้
5.กลไกการแลกเปลี่ยนกำลังการผลิต: กลไกนี้อาจมีผลต่อปริมาณวัสดุในตลาด และทำให้ราคามีความผันผวนตามอุปทานและความต้องการ
6.การนำเข้าและส่งออก: นโยบายการค้าและภาษีนำเข้าหรือส่งออกที่เปลี่ยนแปลงสามารถส่งผลต่อราคาเหล็กแผ่นในตลาดโลกได้
บริษัท ที.เอส.เอ็ม.โลหะภัณฑ์ จำกัด
79/68 หมู่ที่ 19 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
Tel. 02-730-8518 , 02-730-8519 , 02-730-1391 , 02-730-1392 , 02-730-8508